จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับภาพยนตร์ ที่รวยสุดในโลก ผู้สร้าง Star Wars /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกได้สูงสุดตลอดกาล
ก็ต้องมีชื่อ Avatar, Avengers: Endgame และ Titanic
แต่ถ้าเรารวมค่าเข้าชมภาพยนตร์กับยอดขายจากสินค้าและค่าลิขสิทธิ์ที่ต่อยอดจากภาพยนตร์เข้าไปด้วย
ภาพยนตร์ที่สามารถกวาดรายได้ไปได้มากที่สุดในโลกจะเป็น “Star Wars”
และนั่นก็ได้ทำให้ผู้สร้างจักรวาล Star Wars อย่าง “George Lucas”
กลายเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่รวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท
แล้วเบื้องหลังเรื่องราวชีวิตของ George Lucas เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
George Lucas เกิดในปี 1944 และเติบโตที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่ออายุได้ 11 ปี Lucas ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวที่ Disneyland ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหลงใหลในการ์ตูนภาพเคลื่อนไหวและนวนิยายแนววิทยาศาสตร์
แต่พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขามีความสนใจอีกอย่างเพิ่มเข้ามานั่นก็คือ การแข่งรถ
Lucas จึงตั้งเป้าหมายที่จะเป็นนักแข่งรถ แต่ต่อมาแผนการนี้ก็ถูกล้มเลิก
เพราะในวัยเพียง 18 ปี Lucas ได้ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำอย่างรุนแรงจนเขาต้องรักษาตัวอยู่นาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ก็ได้ทำให้ความตั้งใจที่จะเป็นนักแข่งรถหมดลง
เขาจึงนำความหลงใหลในวัยเด็กหรือ “การ์ตูน” กลับมาเป็นเครื่องนำทาง
แม้ว่าพ่อของ Lucas ที่เปิดกิจการขายเครื่องเขียน อยากให้ลูกชายมาช่วยกิจการครอบครัว
แต่ Lucas ที่ตั้งใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อในด้านศิลป์ จึงได้ตัดสินใจออกจากบ้าน
พร้อมกับบอกครอบครัวของเขาว่าจะมีเงิน 30 ล้านบาท ก่อนอายุ 30 ปีให้ได้
Lucas จึงเลิกเรียนมัธยมกลางคันทั้งที่ใกล้จะจบแล้ว
และไปสมัครเรียนที่ Modesto Junior College ซึ่งเป็นวิทยาลัยชุมชนแทน
ซึ่งในตอนแรก Lucas ได้ลงเรียนหลายแขนงวิชามาก เพราะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่
ระหว่างเรียนอยู่ที่นี่ Lucas ก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวและการสร้างภาพยนตร์
เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อระดับปริญญาตรีด้าน Cinematic Arts ที่มหาวิทยาลัย Southern California
ซึ่งหนึ่งในเพื่อนสนิทของ Lucas ที่มหาวิทยาลัยก็คือ Steven Spielberg ผู้กำกับระดับตำนานอีกคนหนึ่ง
หลังเรียนจบในปี 1967 Lucas เลือกเรียนต่อปริญญาโทด้าน Film Production ที่มหาวิทยาลัยเดิม
และได้ทำหนังสั้นประเภท Sci-Fi ที่ชื่อ Electronic Labyrinth: THX 1138 4EB โดยได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแข่งขันในงาน National Student Film Festival และได้รับรางวัลชนะเลิศ
รางวัลที่ Lucas ได้รับ นอกจากทาง Warner Bros. จะให้ทุนการศึกษาแล้ว
บริษัทยังให้สิทธิ์กับเขาไปดูงานเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ได้หนึ่งครั้ง
ซึ่ง Lucas ได้เลือกภาพยนตร์ที่กำกับโดย Francis Ford Coppola
Coppola ประทับใจความสามารถของ Lucas จึงชักชวนเขามาร่วมกันเปิดสตูดิโอ
ที่ชื่อว่า American Zoetrope ในปี 1969 และแนะนำให้ Lucas ดัดแปลงภาพยนตร์สั้นที่ได้รับรางวัล
มาทำเป็นภาพยนตร์ยาว แต่ผลตอบรับของผลงานชิ้นนี้กลับไม่ดีเท่าที่ควร
ปี 1971 Lucas จึงตัดสินใจขอออกมาเปิดบริษัทของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า “Lucasfilm”
ซึ่งหลังจากนั้น ปี 1972 Coppola ได้กลายเป็นผู้กำกับระดับตำนานจากภาพยนตร์เรื่อง The Godfather
และแม้ว่า Lucas จะออกมาแล้ว แต่ทาง Coppola ก็ยังคงคอยให้ความช่วยเหลือเขามาโดยตลอด
ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรกของ Lucasfilm อย่าง American Graffiti ที่เข้าฉายในปี 1973
ซึ่งสามารถทำรายได้กว่า 4,500 ล้านบาทจากทุนสร้างเพียง 25 ล้านบาท
โดยถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ ที่มีอัตรากำไรมากที่สุดในขณะนั้น
American Graffiti ได้กลายเป็นผลงานแจ้งเกิดในฐานะผู้กำกับดาวรุ่งของ Lucas
และทำให้เขามีเงินถึง 30 ล้านบาทได้ในวัย 29 ปี ตามที่เคยบอกกับครอบครัวก่อนออกจากบ้านมา
ในปีเดียวกันนี้เอง ช่วงระหว่างรอ American Graffiti เริ่มเข้าฉาย
Lucas ก็เดินหน้าเสนอบทภาพยนตร์แนวที่เขาอยากทำมากที่สุดมาโดยตลอด
โดยเป็นภาพยนตร์ Sci-Fi ที่มีเรื่องราวการต่อสู้ในอวกาศ นั่นก็คือเรื่อง “Star Wars”
แต่ด้วยความที่ภาพยนตร์ Sci-Fi ในสมัยนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม บวกกับต้นทุนการถ่ายทำที่สูง
เพราะยังแทบไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกหรือ CG จึงมีตัวอย่างภาพยนตร์แนวนี้ที่เจ๊งแทนที่จะแจ้งเกิดมาแล้วหลายเรื่อง จนไม่มีบริษัทไหนสนใจให้ทุนเขาเลย แม้แต่ Universal Pictures ที่เป็นผู้ให้ทุนสร้าง American Graffiti
จนกระทั่ง Lucas ได้มาเจอกับผู้บริหารของ 20th Century Fox ที่รู้สึกสนใจในไอเดียของเขา
จึงตอบตกลงเป็นผู้ให้ทุนสร้างและเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ Star Wars ให้ Lucasfilm
หลังจาก Lucas เริ่มเจรจากับ 20th Century Fox ไปได้ 3 เดือน ภาพยนตร์เรื่อง American Graffiti ที่เพิ่งเริ่มเข้าฉายได้รับกระแสตอบรับดี จึงทำให้ 20th Century Fox เสนอเพิ่มทุนสร้างให้กับ Star Wars เข้าไปอีก
และเหตุการณ์ที่จะเล่าต่อจากนี้ ก็น่าจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของ Lucas เลยก็ว่าได้..
นั่นก็เพราะว่า Lucas เลือกปฏิเสธเงินทุนที่มากขึ้น แต่เขากลับเจรจาขอเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์และสิทธิ์ในสินค้าที่เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมดแทน
ซึ่งทาง 20th Century Fox ก็ตอบตกลงแต่โดยดี เพราะแม้จะสนใจในเรื่องราวของ Star Wars
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากนั้น Star Wars จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
หลังจากซุ่มเขียนบทและเตรียมตัวอยู่ 3 ปี Star Wars ก็ได้เริ่มถ่ายทำในปี 1976
และผลจากการที่ Lucas ปฏิเสธข้อเสนอเพิ่มทุนสร้าง ทำให้เขาต้องเครียดจากการมีงบประมาณที่จำกัด
ด้วยเหตุผลที่ Star Wars คือเรื่องราวในโลกเสมือน ตัวละครที่ Lucas สร้างสรรค์มาจึงเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตรูปร่างหน้าตาแปลกใหม่ อย่างเช่น โยดาและชิวแบคคา รวมไปถึงฉากหลักที่เป็นโลกอวกาศ อุปกรณ์ประกอบฉากอย่างยานอวกาศหรือแม้แต่ดาบไลท์เซเบอร์
การแปลงภาพจากจินตนาการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ให้มาปรากฏในภาพยนตร์ ยังเป็นยุคที่ต้องให้คนสร้างของจริงขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่งจำเป็นต้องบริหารงบประมาณอย่างรอบคอบ
แต่ด้วยความประณีตและใส่ใจรายละเอียดของทั้ง Lucas และทีมงาน จึงทำให้ภาพยนตร์มีภาพออกมาสมจริงรวมถึงเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่
และเมื่อ Star Wars: Episode IV - A New Hope ได้เข้าฉายในปลายปี 1977 ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับผลตอบรับดีแบบถล่มทลาย จนดังระเบิดไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ต่อเนื่องไปจนทั่วโลก
ทาง 20th Century Fox เลยให้ Lucas เริ่มถ่ายทำภาคต่อในทันที
แต่ Lucas ตระหนักดีว่าทุนสร้างภาพยนตร์ที่ได้รับ จะทำให้มีข้อจำกัดในการผลิตมากมายจากผู้ให้เงิน
เขาจึงขอใช้เงินทุนตัวเองในการสร้างภาคต่อที่เหลือ
โดยยังมี 20th Century Fox เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ให้อยู่
ภาพยนตร์ไตรภาคชุดแรกของ Star Wars ก็จบลงอย่างสวยงามในปี 1983 และได้ทำให้ Lucas กลายเป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชั้นนำของโลก ที่กวาดรางวัลใหญ่ไปมากมาย
นอกจากบทบาทการเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่ครองใจผู้ชมไปทั่วโลกแล้ว
ในด้านของการผลิตภาพยนตร์ Lucas ยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ซึ่งเขามุ่งมั่นและทุ่มงบประมาณให้ Lucasfilm วิจัยพัฒนา โดยได้แบ่งออกเป็นบริษัทย่อยที่เน้นโฟกัสคนละอย่าง
จนสามารถเป็นผู้นำในด้านนั้น ๆ ได้มาจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น
- ILM ที่ก่อตั้งในปี 1975 เน้นพัฒนาการสร้างภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริงด้วยคอมพิวเตอร์
- Skywalker Sound ที่ก่อตั้งในปีเดียวกัน เน้นพัฒนาการใส่เสียงประกอบภาพยนตร์
- Pixar ที่ก่อตั้งในปี 1979 เน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสร้างแอนิเมชัน 3 มิติ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินลงทุนสูงโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น
ส่งผลให้ Lucasfilm ประสบปัญหาทางการเงินจนได้ตัดสินใจขาย Pixar
ให้กับ Steve Jobs ในปี 1986 ซึ่งเป็นช่วงที่ Steve Jobs เพิ่งโดนไล่ออกจาก Apple
ในตอนนั้น George Lucas ผู้เป็นเจ้าของ ได้ขาย Pixar ให้กับ Steve Jobs ด้วยราคา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จ่ายให้กับ George Lucas
และอีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นเงินทุนของ Pixar
ก่อนที่ Disney จะขอซื้อ Pixar ต่อจาก Steve Jobs อีกทีในปี 2006
และทั้ง 2 บริษัทที่มีผู้ก่อตั้งคนเดียวกันอย่าง Pixar กับ Lucasfilm ก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
เมื่อทาง Disney เจรจาขอซื้อ Lucasfilm จาก Lucas ในปี 2012
ด้วยมูลค่า 4.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากถึง 1.31 แสนล้านบาท
แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่สร้างมูลค่าให้กับ Lucasfilm และความมั่งคั่งของ Lucas อย่างมหาศาล
กลับไม่ได้มาจากรายได้ของภาพยนตร์ Star Wars ที่ทำเงินได้กว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุกภาครวมกันในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก
นั่นก็เพราะว่าความนิยมของจักรวาล Star Wars ไม่ได้จบลงที่จอภาพยนตร์เท่านั้น
แต่ยังถูกต่อยอดไปเป็นผลิตภัณฑ์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากภาพยนตร์ อย่างเช่น หุ่นจำลองของตัวละครหรือดาบไลท์เซเบอร์ หรือจะเป็นในสื่อชนิดอื่น อย่างซีรีส์ที่ฉายในโทรทัศน์ วิดีโอเกม หรือหนังสือ
โดยสินค้าทั้งหมดนี้ทำรายได้ให้ Star Wars มากกว่าค่าเข้าชมภาพยนตร์เกือบ 6 เท่า
ซึ่งเราก็ต้องกลับไปดูการตัดสินใจครั้งสำคัญของ Lucas ที่ได้เลือกเจรจาขอเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์และสิทธิ์ในสินค้าที่เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมด มันส่งผลให้ Lucas มีช่องทางรายได้ที่มั่นคงกว่ามากในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน Forbes ได้จัดอันดับให้ Lucas เป็นเซเลบริตีที่รวยสุดในโลกในปี 2018 และครองตำแหน่งผู้กำกับที่รวยสุดในโลกได้อย่างยาวนาน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินในปัจจุบันกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.2 แสนล้านบาท
นึกย้อนกลับไปถึง Lucas ในวัย 11 ปี
ที่เริ่มหลงใหลในตัวละครโลกเสมือนจากการไป Disneyland เป็นครั้งแรก
มาถึงวันนี้ Disneyland แห่งเดิม ได้มีโซนใหม่ที่ชื่อว่า “Star Wars: Galaxy's Edge”
ซึ่งมันก็เป็นผลงานของ Lucas ที่เกิดขึ้นได้เพราะการเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเขาเอง ที่สถานที่แห่งนี้ในวันนั้น
และเมื่อ 3 สิ่งนี้มาบรรจบกัน ก็ดูเหมือนว่าจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกจริง ดูน่าตื่นเต้นไม่แพ้โลกในภาพยนตร์เช่นกัน..
Lucas | Star Wars | Disney
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.com/how-star-wars-made-george-lucas-a-billionaire-2015-12
-https://www.businessinsider.com/star-wars-george-lucas-net-worth-movies-house-spending-2019-7
-https://www.theatlantic.com/magazine/archive/1979/03/the-man-who-made-star-wars/306228
-https://www.radiotimes.com/movies/how-to-watch-the-star-wars-movies-in-the-right-order/
-https://clubjade.net/nine-ways-george-lucas-changed-movies-forever/
-https://en.wikipedia.org/wiki/George_Lucas
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_highest-grossing_media_franchises
-https://www.forbes.com/profile/george-lucas/?sh=35340de56e63
同時也有10部Youtube影片,追蹤數超過31萬的網紅Nguyen Qui Gamer,也在其Youtube影片中提到,GTA 5 - Thử Thách Vượt Suối Băng Rừng Địa Hình Off-Road Với Bán Tải Ford Ranger ? Facebook cá nhân: https://facebook.com/NguyenQuiOfficial ? Group g...
「ford edge」的推薦目錄:
- 關於ford edge 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ford edge 在 貓的成長美股異想世界 Facebook 的精選貼文
- 關於ford edge 在 XE HAY Facebook 的最佳貼文
- 關於ford edge 在 Nguyen Qui Gamer Youtube 的精選貼文
- 關於ford edge 在 7Car小七車觀點 Youtube 的精選貼文
- 關於ford edge 在 わたべおーと Youtube 的最佳貼文
- 關於ford edge 在 功能手册2021款福特锐界Ford Edge PLUS EcoBoost 245 ST ... 的評價
- 關於ford edge 在 【海外情報】首輛性能化SUV誕生!Ford Edge ST初試啼聲! 的評價
ford edge 在 貓的成長美股異想世界 Facebook 的精選貼文
🌻另一個Zoom會議(第二次貼......有補上一些內容)
繼上次的年報導讀會議後, 讓我們再做另一個會議! 這次很榮幸邀請到一位對估值很有見解的股友前輩來帶大家了解估值(恩, 這次我會是主持人, 不是主講人).
主題: 估值(valuation)分享會(Cat: 這不算基礎的估值會議)
主講人: 小揚(from安泰價值投資)
https://www.facebook.com/antaiinvestment (此為小揚的粉絲頁)
參與者: 具基本估值能力. 若打算參加者, 請事先跟我(請私訊)提出一個關於估值的case study, 到時候可在會議中分享(最好是以投影片形式呈現, 這樣到時候好跟大家分享). 若有估值的問題, 也可以提出.
Case study可以是美股, 也可以是台股.
時間: 台灣時間07/10 (周六)晚間9點.
預計一個小時(不會像上次那樣冗長了😅): 前30分鐘由小揚做分享, 後30分鐘大家分享估值案例&提問
進行方式: 以Zoom進行(之後會私訊會議資訊給參與者)
🌻Morgan Stanley Mid-year Investor Outlook: A tricky transition
https://www.morganstanley.com/ideas/midyear-2021-global-markets-outlook
🌻在您投資生涯中, 有沒有一些觀念讓您受用很多?
下面這位投資名人的好觀念影響我很深. 他的意思是, 一般投資人, 只要能説出三個買一家公司的理由, 就很夠了. 這也迫使我, 每次在買股票時, 問自己對這家公司的了解有多少. 也會去衡量公司的優點與缺點在哪裡.
"It is vital (重要的) that you know what you own, that if I asked you on the street why you like a certain stock, you can give me three reasons. If you don't know how they make their money, who their key clients are and what they make if, then I will tell you that you are over your head and should not own individual stocks."
全文在此:
Jim Cramer: In Times Like This, Go for the Easy Money
Look at the stocks you own. Can you tell me why you've got them? If you can't answer the following three questions, then have a look at several I like right now.
We've endured the meme stock craziness, with all of its love for heavily shorted stocks. We have watched the collapse of bitcoin to levels viewed as shocking, even if they are still more than double where they were not that long ago. We've dealt with Fed officials making it clear that they are no longer on the side of the bulls or the bears. They are on the side of job growth, but are wary of inflation. We've seen the end of the rush to get vaccines, which means that millions of people are going to get the new COVID variant, because there is no natural immunity to it. We've watched as the hopes for an infrastructure bill have collapsed. We've endured shortages of everything from chips to plastic to imported goods and labor.
And we're still standing, yeah, yeah, yeah.
Yep, we are in one of those halcyon moments, where the masks are off -- even if they shouldn't be -- and Americans are back doing what they do best: consume, spend, go out to eat and then consume and spend some more.
There are times in the stock market where the collective mindset is revealed. This is one of those times: Things are cool, it's not a big moment, there's no real news for a bit, it's the historically strong period and we can reach some conclusions about where we are.
When things are like this, it is important to remember that buyers like to revert to tried-and-true companies that thrive no matter what. These are companies that have an edge and are better at what they do than other companies.
You know that I am a great believer in index funds, that the average person doesn't have the time or the inclination to research individual stocks. It's a difficult barrier. I think you need to make time to read the quarterly report and listen to the conference call, to Google articles and, if possible, get some research about the companies you own. It is vital that you know what you own, that if I asked you on the street why you like a certain stock, you can give me three reasons. If you don't know how they make their money, who their key clients are and what they make if, then I will tell you that you are over your head and should not own individual stocks. I am reminded by this, because, once again, without a mask, I can be recognized and if I am not holding "Nvidia the Second," I can carry on a conversation.
I have had many in the last two weeks and when I have asked this litany of questions, I find myself at a loss as to why almost no one knew what they owned. But they thirsted for individual stocks, because they, like me, think things are better post pandemic. No, that's not a facetious comment. Many, many stocks did better with a stay-at-home economy. A huge number.
So what do I do? I revert to what others do when you are stumped about how to stay in touch with stocks, but want to do less homework. That means buying stocks that are accessible, not stocks like Unity (U) or Snowflake (SNOW) or Twilio (TWLO) or Okta (OKTA) .
I revert to normal businesses people know and I suggest they Google some articles, peruse the conference call, but, above all, like the company's products so you can buy more if it goes down.
Here's some that I have been telling people I like:
First is Ford (F) . I think the Ford lineup is amazing. The electric F-150 series will be incredible. I am eager to get a Maverick for my family, because it is a smaller pickup that will get the job done for the myriad little things I need to do with this farm I bought from that crazy bitcoin foray. I like the competitive edge of the CEO, who says he is going to bury Elon Musk when the Lightning comes out. I even think the Bronco is cool as all get out. Most important, though? I think the chip shortage is ending. My semiconductor friends are telling me the foundries are producing more feature-rich chips and that means Ford can pump out the trucks small business people love and need. Plus, the used car prices at last have plateaued, according to their most important pricing index. Halcyon times.
Second, Costco (COST) : The samples are coming back. Tell me you don't love the samples. You need things in bulk. You want low prices. You want to get all of the things that people don't think of with Costco, like insurance, hearing-aids -- hey, they are a fortune -- jewelry, things around the house. You go and you will buy far more than you first came for. My kind of store.
The kids love this American Eagle Outfitters (AEO) , which we just bought for my charitable trust, which you can follow along by joining the Action Alerts PLUS club. Jay Schottenstein, the CEO, came on "Mad Money" recently and it's clear that his Aerie model has real staying power: 26 consecutive quarters of double digit growth. No flash in the pan, that one. Number one brand in jeans for the 15 to 25 year old group. The best in the mall. How did I know this? I see the credit card bills.
I got up this morning to do my physical therapy. I have been doing it ever since I hurt my back in February. I have this really cool pair of sneakers that fit me perfectly and I love them, but I am fortunate enough to have a vacation house and I am always taking those shoes with me.
So I went on Amazon (AMZN) this morning and lo and behold I saw them for half price. I bought two pairs. Then I went over everything I have bought in the last year and got a bunch of those things. Then I bought a pair of binoculars, because mine were stolen. I paid half price.
Yep, Amazon's universal. I was talking to Alexa, while I was ordering, getting some new music on, asking questions. I saw that despite all of the Sturm und Drang of Amazon being late with things, all the delivery dates were within range. I didn't click on any ads, and I didn't need the speed of Web Services, but the whole thing reminded me about how special the darned company is. I don't care if it's ahead or behind plan for the moment. I would just buy some more when it goes down.
Finally, Apple (AAPL) . I think people who don't own Apple should look what they are holding at this very moment. Yes, right now. Or look at what's in your lap or on the table besides your fork. And then think about the bill you paid last night without knowing it. Think about what you bought in the App store yesterday. Think about what would happen if it would break or get stolen or, left in the Uber (UBER) , or heaven forbid, be dropped into the pool or in the, yes, toilet.
There, that's what you buy in halcyon times. Stocks of companies you know that if they go lower, because things get less halcyon, you are fine with it and buy more. If things go up, believe me, you will participate.
So accept the moment. Don't try for the hard money. Go for the easy kind. That's the best kind.
https://realmoney.thestreet.com/jim-cramer/jim-cramer--15692051
Picture: 牡丹(peony)花開. 恨不得院子裡有一塊地是牡丹園.
ford edge 在 XE HAY Facebook 的最佳貼文
Chiếc này nhìn hơi giống #Ford #Ecosport ở VN nhỉ?
Hãy đăng ký kênh #Xe_Hay tại đây https://bit.ly/2nmwiaL để xem những video đánh giá xe chi tiết hấp dẫn nhất
ford edge 在 Nguyen Qui Gamer Youtube 的精選貼文
GTA 5 - Thử Thách Vượt Suối Băng Rừng Địa Hình Off-Road Với Bán Tải Ford Ranger
? Facebook cá nhân: https://facebook.com/NguyenQuiOfficial
? Group giao lưu: http://fb.com/groups/NguyenQuiGamer
? Fanpage: https://facebook.com/NguyenQuiGamer
================================================
✩ MUA/THUÊ game bản quyền giá rẻ tại: http://divineshop.vn
✩ Mua PC/Gear: http://nguyenvu.store
✩ HỢP TÁC quảng cáo: info@nguyenqui.com
================================================
✩ MOD:
- Bán tải Ford Ranger: https://libertycity.net/files/gta-5/100717-2017-ford-ranger-limited.html
- Bản đồ off-road: https://vi.gta5-mods.com/maps/off-road-trail-4x4-off-the-edge
================================================
© Bản quyền thuộc về Nguyễn Quí Gamer
© Copyright by Nguyễn Quí Gamer Channel ☞ Do not Reup
#nguyenquigamer #gta5 #ford
tags: nguyen quy gamer, nguyễn quí gamer, nguyễn quý gamer, #nguyenquigamer, nguyenquigamer, gta 5, gta v, ets2, bus simulator, truck simulator, car simulator, gta 5 simulator, bus simulator vietnam,
ford edge 在 7Car小七車觀點 Youtube 的精選貼文
Ford 日前推出 Road Edge Detection 道路邊界偵測系統,可在未劃設標線道路自動透過攝影機判讀前方,偵測道路邊界位置,在車輛過於靠近時稍加轉動方向盤,協助拉回車身,避免開出邊界造成事故,將率先導入歐規 Explorer、Focus、Kuga 及 Puma 車系當中。
延伸閱讀:https://www.7car.tw/articles/read/65072
更多資訊都在「小七車觀點」:https://www.7car.tw/
ford edge 在 わたべおーと Youtube 的最佳貼文
今回はフォードのエッジカナダで乗ってきましたのでレビュー動画になります。
昼間に撮った映像がパーになったので夜に撮った映像になってます。
外観のカッコ良さもさることながら内装の高級感もかなりのもの。動画では言いませんでしたがステアリングも電動チルト式になっていました。
走ってみると静粛性が凄い。
ただカナダは路面が結構荒いところが多くゆったりと落ち着いて運転というわけには行きませんでした。ちょっと発進遅れるとクラクション鳴らされるし!
というわけでこのフォードのエッジかなりいい車なのは間違い無いです!
ford edge 在 【海外情報】首輛性能化SUV誕生!Ford Edge ST初試啼聲! 的推薦與評價
Ford 早已預告旗下將會推出性能化SUV,現終於為旗下Edge冠上ST標籤,並透過2.7升V6 Ecoboost雙渦輪增壓引擎作為核心,使其最大動力來到335匹水準! ... <看更多>
ford edge 在 功能手册2021款福特锐界Ford Edge PLUS EcoBoost 245 ST ... 的推薦與評價
... <看更多>